5 ขั้นตอนในการเป็นผู้ซื้อที่ฉลาด

คุณชอบช้อปปิ้งหรือเปล่า เชื่อว่าผู้หญิงทุกคนชอบตอบแทนตัวเองด้วยการช้อปปิ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีส่วนลดหรือโปรโมชั่นที่น่าสนใจ สาวๆคงไม่อยากพลาด อย่างไรก็ตามโปรดจำไว้ว่างานอดิเรกชิ้นนี้สามารถทำให้คุณลำบากได้ ลองทำตามคำแนะนำด้านล่างนี้เพื่อให้คุณสามารถเป็นผู้ซื้อที่ฉลาด!

1. อย่าเร่งรีบ!

หากคุณเห็นสิ่งที่น่าสนใจอย่าพึ่งรีบตัดสินใจซื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณต้องการสิ่งของที่แตกต่างกันแต่ต้องเลือกซื้ออย่างใดอย่างหนึ่ง ลองเดินช็อปปิ้งเรื่อยๆไปยังร้านอื่น ๆ ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อของที่คุณชอบมากที่สุด ดังนั้นแล้วคุณจะไม่เสียใจในการซื้อสินค้าเพียงเพราะแค่มีสินค้าชิ้นนั้นวางขาย

2. เปรียบเทียบราคา

ถ้าคุณต้องการซื้ออะไรสักอย่าง ให้ลองเปรียบเทียบราคาด้วยสินค้าชนิดเดียวกันจากแบรนด์อื่น หากคุณภาพและฟังก์ชันเหมือนกันคุณสามารถเลือกซื้อแบรนด์ที่ราคาถูกกว่า นอกจากนี้คุณยังสามารถเปรียบเทียบราคาสินค้าจากร้านออฟไลน์และร้านค้าออนไลน์ได้ เนื่องจากบางครั้งร้านค้าออนไลน์อาจขายในราคาที่ถูกกว่า หลังจากเปรียบเทียบราคาแล้ว วิธีการชำระเงินอาจช่วยให้คุณได้รับส่วนลดมากยิ่งขึ้นเช่น คุณจะได้ใช้โอกาสในการใช้บัตรเครดิตจากธนาคารบางแห่งในการเพิ่มส่วนลดของคุณได้

3. เช็คคุณภาพ

สำหรับการช้อปปิ้ง ทางออนไลน์ ไม่ว่าคุณจะซื้ออะไรก็ได้ตาม คุณสามารถเลือกสินค้าได้เพียงจากรูปภาพที่เห็นเท่านั้น แต่คุณไม่สามารถตรวจสอบคุณภาพจริงของสินค้านั้นได้ อ่านรายละเอียดของผลิตภัณฑ์รวมถึงวัสดุส่วนผสม สี และอื่น ๆ อย่างละเอียดเพื่อที่คุณจะไม่เสียใจในภายหลัง สำหรับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและผลิตภัณฑ์แต่งหน้าให้ดูคุณภาพก่อนเป็นอันดับแรกเพื่อผิวของคุณจะได้รับผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด หากคุณต้องการซื้อผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่คุณไม่เคยลองใช้มาก่อนคุณควรอ่านบทรีวิวสินค้าก่อน ถ้าคุณต้องการซื้อผลิตภัณฑ์ดูแลผิวต่อต้านริ้วรอยและมีหลายยี่ห้อที่มีคุณสมบัติเหล่านี้ คุณจะต้องค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ในเว็บไซต์ของแบรนด์และรีวิวจากผู้ใช้เพื่อให้คุณได้รับผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด

4. ตรวจสอบข้อกำหนดและเงื่อนไข

ตรวจสอบเงื่อนไขรายการก่อนสั่งซื้อสินค้า เช่น คุณสามารถแลกเปลี่ยนหรือขอคืนเงินสิ่งที่คุณได้ซื้อไปแล้วหรือเปล่า? ถึงแม้สินค้าจะมีโปรโมชั่น ให้ตรวจสอบข้อกำหนดก่อนซื้อ บ่อยครั้งข้อกำหนดและเงื่อนไขจะเขียนเป็นตัวอักษรขนาดเล็กหรือแยกกัน ดังนั้นคุณควรดูและเช็คอย่างละเอียด หรือสอบถามพนักงานขายหรือฝ่ายบริการลูกค้าเพื่อขอดูรายละเอียดเพิ่มเติม

5. ความจำเป็น หรือ ความต้องการ

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคุณต้องถามตัวเองว่าสินค้าชิ้นนั้นจำเป็นสำหรับคุณหรือเพียงเพราะคุณต้องการมัน บางครั้งคุณรู้สึกผิดหรือเสียใจที่ซื้อสิ่งที่คุณไม่ต้องการจริงๆและจะไม่ใช้มันแม้ที่บ้าน จะดีกว่าไหมที่จะเก็บเงินไว้สำหรับสิ่งที่สำคัญกว่าหรือผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพที่ดีกว่าหรือสินค้าที่มาใหม่